จริงหรือไม่ สุขภาพและหุ่นดีขึ้นได้ แค่เปลี่ยนความเชื่อ
คุณรู้หรือไม่ว่า วิธีที่คุณคิดสัมพันธ์โดยตรงกับการใช้ชีวิตของคุณ ดังคำกล่าวที่ว่าคิดอะไรก็ได้แบบนั้น คิดดีชีวิตบวก คิดลบชีวิตติดลบ ไม่ว่าจะเป็นความคิดทั่วไปหรือความคิดที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมเพื่อสุขภาพของคุณ ความคิดของคุณเป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งผลต่อการกระทำ พฤติกรรม และการใช้ชีวิตในภาพรวมของคุณ เรามาสำรวจความคิดของตัวเองและเรียนรู้หาวิธีปลูกความคิดใหม่ให้ชีวิตเติบโตกัน
สิ่งหนึ่งที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดแต่กลับถูกละเลยก็คือการทำความเข้าใจความเชื่อของตัวเองว่ามาจากที่ไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร และลองหาวิธีการเปลี่ยนความเชื่อเหล่านั้นเพื่อการมีสุขภาพกายและจิตใจที่สดใสเบิกบาน พร้อมความเป็นอยู่ที่ดีของคุณในทุกด้าน
อันดับแรก เรามาทำความเข้าใจว่า ความเชื่อคืออะไร
ความเชื่อของคุณคือสิ่งที่คุณเชื่อถือ ยึดมั่น ทั้งในเรื่องของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
คุณอาจเชื่อว่า: “ทุกคนในครอบครัวของฉันตัวใหญ่ ดังนั้นฉันก็จะต้องตัวใหญ่เช่นกัน”
“ฉันเล่นกีฬาหรือคลาสฟิตเนสไม่เก่ง”
ความเชื่อของคุณคือผลจากทุกสิ่งที่คุณเห็น อ่าน ได้ยิน และรับประสบการณ์ตั้งแต่ตอนที่คุณยังเด็ก เมื่อเวลาผ่านไปไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว สิ่งเหล่านี้จะฝังอยู่ในจิตใจของคุณ และเป็นผลที่เกิดจากสิ่งที่อ้างอิงแบบรูปธรรมและนามธรรม โดยสิ่งอ้างอิงแบบรูปธรรมคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับคุณหรือสิ่งที่คุณประสบด้วยตัวเอง สิ่งอ้างอิงแบบนามธรรมคือสิ่งที่คนอื่นบอกคุณหรือสิ่งที่คุณอาจเคยอ่านหรือเห็นในโทรทัศน์ และสื่อต่างๆ
หากเราคิดจากความเชื่อข้างต้น
คุณอาจเชื่อว่า: “ทุกคนในครอบครัวของฉันตัวใหญ่ ดังนั้นฉันก็จะต้องตัวใหญ่เช่นกัน”
โดยความเชื่อนี้อาจเกิดจากสิ่งอ้างอิงแบบรูปธรรม เช่น การลองทานอาหารคลีนแล้วน้ำหนักไม่ลดสักที เลยกลับมาตบะแตก กินหนักกว่าเดิม และการอ้างอิงแบบนามธรรม เช่น การได้ยินสมาชิกในครอบครัวบอกว่าได้ลองทุกอย่างในการลดน้ำหนักแล้วแต่ยังทำไม่ได้สักที ความอ้วนต้องเป็นกรรมพันธุ์ที่แก้ไขไม่ได้แน่ๆ
ความเชื่อของคุณส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณได้อย่างไร
หากคุณมีความเชื่อว่าคุณจะน้ำหนักเกิน คุณก็จะหมดกำลังใจในการออกกำลังกาย และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะคิดว่าทำยังไงก็คงอ้วนอยู่ดี จึงไม่ลองที่จะแก้ไขปัญหาน้ำหนักในระยะยาว ต่อมาหากคุณเชื่อว่าคุณเล่นกีฬาและคลาสฟิตเนสได้ไม่ดี คุณจะลดการเข้าร่วมคลาสฟิตเนสเหล่านั้น หรือรู้สึกไม่สนุกทั้งๆที่ยังไม่เคยลองด้วยซ้ำ
ความเชื่อเหล่านี้เรียกว่า ‘ความเชื่อที่จำกัด’ การมีสุขภาพกายที่แข็งแรงกว่าเดิม ความสุขในชีวิตที่จะได้ภูมิใจกับรูปร่างและความแข็งแรงที่แท้จริงนั้น ตัวคุณเองสามารถทำได้ แค่เปลี่ยนความเชื่อ และลงมือทำด้วยความสุขและความมุ่งมั่นเอาจริง
เริ่มสร้างความเชื่อใหม่
ขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนความเชื่อของคุณคือการทำความเข้าใจ และยอมรับว่าสิ่งใดที่จำกัดความเชื่อของคุณและเป็นอุปสรรคต่อการมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงของคุณ คุณอาจมีความเชื่อเชิงบวกและอยากจะกระตุ้นตัวคุณเองเกี่ยวกับการมีสุขภาพดีและมีความแข็งแรง เช่น การทำอาหารเพื่อสุขภาพจะช่วยให้ฉันมีแรงและมีสุขภาพดี ให้รักษาความเชื่อเชิงบวกนั้นไว้และจัดการกับความเชื่อที่เป็นอุปสรรคกับคุณ
เมื่อคุณทราบแล้วว่าความเชื่อที่จำกัดของคุณคืออะไร ให้ลองทำความเข้าใจ และถามตัวเองว่าความเชื่อเหล่านั้นมาจากไหน หากคุณเชื่อว่าคุณเล่นกีฬาไม่เก่งหรือเข้าคลาสฟิตเนสไม่ได้ ความเชื่อนั้นอาจมาจากเหตุต่างๆ ทั้งรูปธรรมและนามธรรม บางทีคุณอาจโดนแซวที่โรงเรียนหรือเด็กคนอื่นๆ บอกคุณว่าคุณเล่นกีฬาไม่เก่ง
ความเชื่อเหล่านี้จะต้องใช้ความใส่ใจในการแก้ไข คุณต้องเริ่มจากการสร้างความเชื่อใหม่ด้วยการสร้างสิ่งอ้างอิงที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม เช่น สร้างสิ่งอ้างอิงแบบรูปธรรมด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาและฟิตเนสสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ให้แน่ใจว่าครูฝึกของคุณนั้นคิดบวกและคอยกระตุ้นว่าชั้นเรียนนั้นเหมาะสำหรับคุณ ประสบการณ์เชิงบวกจะช่วยทำให้คุณเปลี่ยนความเชื่อที่ไม่ดีต่อกีฬาและฟิตเนส การค่อยๆ ทำอย่างต่อเนื่องด้วยความมั่นใจและมุ่งมั่นจะเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆให้ตัวคุณเอง ในการก้าวขึ้นไปอีกขั้นของเป้าหมายที่จะมีชีวิตที่มีความสุข และมีสุขภาพที่เเข็งแรง
ความเห็น