Air Pollution in Bangkok

กรุงเทพและการผจญกับมลพิษทางอากาศ

ณ เวลานี้ มลพิษทางอากาศจะยังอยู่ที่นี่ และคุณก็เช่นกัน แทนที่จะเมินเฉยกับปัญหาหรือตื่นตระหนกกับภยันตรายจนเกินไป เรามีวิธีที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตในเมืองกรุงแห่งนี้ได้อย่างมีความสุข และสุขภาพดี

มีอะไรบ้าง ในบทความนี้

คู่มือการป้องกันตนเองและครอบครัวจากอันตรายของฝุ่น PM 2.5

 

หมอกควัน, ฝุ่น PM 2.5, มลพิษทางอากาศ

คำเหล่านี้เป็นคำที่เราต่างคุ้นเคย ไม่ว่าจะออกข่าว คนใช้กันในวงสนทนา หรือแม้แต่ในโฆษณาจากร้านขายยา

มลพิษทางอากาศ และผลกระทบที่อันตรายจากการรับมลพิษอย่างต่อเนื่อง เป็นความจริงที่น่าหวาดหวั่นสำหรับผู้คนมากมายทั่วโลก

และสำหรับพวกเราที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพ แน่นอนว่ามลพิษทางอากาศจะไม่หายไปในเร็วๆนี้ และนั่นหมายความว่ามีสองหนทางที่เราต้องเลือก คือ จะย้ายไปอยู่เมืองที่อากาศเป็นพิษน้อยกว่านี้ หรือเรียนรู้ที่จะรับมือกับภัยคุกคามชีวิตที่กำลังคืบคลานเข้ามา

ชาวเมืองต่างก็ใช้ชีวิตแบบ “ชาวเมือง” ทั้งเพราะว่าจำเป็น หรือความชอบส่วนตัว หรือทั้งคู่ ดังนั้นการย้ายออกจากเมืองจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดูจะทำได้จริงนักสำหรับชาวกรุงเทพ และที่จริงนั้น พวกเราต่างก็รักกรุงเทพและชีวิตในมหานครที่แม้จะยุ่งวุ่นวายแต่ก็มีเสน่ห์เช่นนี้

ณ เวลานี้ มลพิษทางอากาศจะยังอยู่ที่นี่ และคุณก็เช่นกัน แทนที่จะเมินเฉยกับปัญหาหรือตื่นตระหนกกับภยันตรายจนเกินไป เรามีวิธีที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตในเมืองกรุงแห่งนี้ได้อย่างมีความสุข และสุขภาพดี

จงขวนขวายหาข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศอยู่เสมอ ศึกษาว่ามลพิษทางอากาศคืออะไร มาจากไหน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร วิธีการป้องกัน และสิ่งที่คุณทำได้เพื่อช่วยลดมลพิษทางอากาศ

มลพิษทางอากาศคืออะไร 

Bangkok and the Battle Against Air Pollution • Air Pollution Bangkok inforgraphic what is pm25

เพื่อที่จะเข้าใจว่าทำไมมลพิษทางอากาศถึงอันตราย คุณต้องเข้าใจก่อนว่าฝุ่น PM 2.5 คืออะไร 

ฝุ่น PM 2.5 หมายถึงอนุภาคขนาดเล็กในอากาศ มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กกว่า 2.5 ไมโครเมตรและมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนเท่านั้น ถ้าจะให้เปรียบเทียบ อนุภาคเหล่านี้จำนวน 30-40 อนุภาคมีขนาดเท่ากับเส้นผม 1 เส้น 

ข้อมูลเรื่องนี้สำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ 

คือทุกๆครั้งที่คุณหายใจรับฝุ่น PM 2.5 เข้าไป อนุภาคเหล่านี้เล็กมากพอที่จะผ่านจมูก ลำคอ และเข้าไปในปอดได้โดยตรง จากนั้น ฝุ่น PM 2.5 ก็จะเข้าไปในระบบหมุนเวียนโลหิตและก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้มากขึ้นไปอีก 

อนุภาคเหล่านี้มักจะเต็มไปด้วยสารเคมีที่เป็นพิษ และเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วก็จะก่อให้เกิดโรคและปัญหาสุขภาพ ที่อาจจะทั้งเรื้อรังและรุนแรงได้ 

ฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้มีเพียงขนาดเล็กแต่ยังมีน้ำหนักเบาและสามารถลอยอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานาน และเกิดการสะสมรวมกลุ่มกันหนาขึ้นจนสามารถเห็นชัดได้ด้วยตาเปล่า ด้วยเหตุนี้ฝุ่น PM 2.5 ปริมาณมากที่ค้างอยู่ในอากาศเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์จะเพิ่มโอกาสที่คุณจะหายใจรับสารเคมีอันตรายเข้าไปในร่างกายได้มากขึ้น 

ฝุ่น PM 2.5 มาจากไหน 

ฝุ่น PM 2.5 มาจากการเผาไหม้ทุกประเภท แหล่งกำเนิดหลักของฝุ่น PM 2.5 คือโรงงานและโรงไฟฟ้า เครื่องยนต์ที่ปล่อยฝุ่นควันออกมา และฝุ่นจากการก่อสร้าง  

เกษตรกรรมก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของมลพิษทางอากาศเช่นกัน โดยเกษตรกรในจังหวัดรอบข้างมักจะเผาพื้นที่ทางการเกษตรหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวเป็นการกำจัดรากพืชที่หลงเหลืออยู่เพื่อเตรียมสำหรับการเพาะปลูกรอบต่อไป

ในกรุงเทพมลพิษทางอากาศมักจะรุนแรงที่สุดในฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในช่วงเวลานี้ความกดอากาศจะเปลี่ยนและลมที่จะช่วยพัดพามลพิษออกไปก็น้อยลง ทำให้หมอกควันหนาแน่นปกคลุมไปทั้งเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีฝุ่น PM 2.5 อย่างชัดเจน 

เหตุใดฝุ่น PM 2.5 จึงอันตราย

Bangkok and the Battle Against Air Pollution • Air Pollution Bangkok inforgraphic effects

การรับฝุ่น PM 2.5 ทั้งระยะสั้นและระยะยาวสามารถมีผลกระทบกับคุณได้ทั้งกายและใจ และไม่ได้เพียงก่อให้เกิดแต่ “อาการไอหน้าหนาว” เท่านั้น 

ระบบต่างๆในร่างกายเราต่างมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศได้เช่นกัน 

1. ปอดและระบบทางเดินหายใจ

ผลกระทบจากมลพิษทางอากาศโดยทั่วไปที่สุดคือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด ซึ่งเกิดจากการอักเสบของปอดที่รับฝุ่น PM 2.5 เข้าไป 

ยังมีการค้นพบว่าฝุ่น PM 2.5 สามารถก่อให้เกิดการอักเสบของปอดที่จะนำไปสู่โรคปอดบวมและกระทั่งโรคมะเร็งปอดได้ 

2. ระบบเลือด

เมื่อรับฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในปอดโดยตรง อนุภาคส่วนที่ละลายได้จะเข้าไปในกระแสเลือด และสารเคมีอันตรายในกระแสเลือดสามารถนำไปสู่ปัญหาหลายประการ เช่น ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดอ่อนแอ และหลอดเลือดอุดตัน ปัญหาเหล่านี้สามารถนำไปสู่ความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและปัญหาเกี่ยวกับหัวใจได้ 

3. หัวใจและระบบไหลเวียนเลือด

สารเคมีที่มากับฝุ่น PM 2.5 ที่เข้าไปในร่างกายสามารถมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ ความแปรผันของหัวใจ สามารถเพิ่มความเสี่ยงของอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ สภาวะหัวใจล้มเหลว และโรคในระบบไหลเวียนเลือดอื่นๆได้

4. ระบบสืบพันธ์ุ 

สตรีมีครรภ์จำเป็นต้องระวังการรับฝุ่น PM 2.5 เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถเพิ่มความเสี่ยงของภาวะพิการแต่กำเนิดของทารก ถ้าหากระบบโลหิตเกิดการเป็นพิษอันเนื่องมาจากฝุ่น PM 2.5 ตัวอ่อนในครรภ์ก็จะได้รับผลกระทบโดยตรงได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ 

ยิ่งคุณได้รับฝุ่น PM 2.5 มากและนานเท่าไหร่ คุณก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังเหล่านี้ได้มากขึ้นเท่านั้น งานศึกษาอีกหลายชิ้นยังพบว่าการรับฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาวสามารถทำให้อายุขัยสั้นลงได้อีกด้วย

วิธีการป้องกันตนเอง 

Bangkok and the Battle Against Air Pollution • Air Pollution Bangkok inforgraphic protect yourself

มลพิษทางอากาศส่งผลต่อแต่ละคนต่างกันออกไป กลุ่มที่มีความเสี่ยงมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบมากกว่าและควรระมัดระวังเป็นพิเศษในขณะที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพ นั่นคือ กลุ่มผู้สูงอายุ เด็ก และสตรีมีครรภ์ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนเลือดเดิมทีอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะในแง่ของอายุหรือความแข็งแรงของสุขภาพ ยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัดว่าการรับฝุ่น PM 2.5 เป็นประจำจะก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพแบบองค์รวมอย่างไร มีหลายมาตรการที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันตนเองและครอบครัวจากฝุ่น PM 2.5   

นี่คือ 8 วิธี ที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฝุ่น PM 2.5 เพื่อที่จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยในกรุงเทพ 

1. รู้ค่าอากาศ

จงรู้เสมอว่าอากาศภายนอกนั้นแย่หรือดีเท่าไหร่ คุณสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบค่าดัชนีคุณภาพอากาศในพื้นที่ที่คุณอยู่ สำหรับกรุงเทพและเอเชียแล้วเราแนะนำแอปพลิเคชัน AirVisual และ Air Matters 

เคล็ดลับจาก Guri: ตรวจสอบค่าดัชนีคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหลายๆแหล่ง เพราะบางแอปพลิเคชันใช้ระดับคะแนนที่แตกต่างกัน ดังนั้นอากาศที่ “ปลอดภัย” ในแอปพลิเคชันหนึ่งอาจจะ “ไม่ปลอดภัย” ในอีกแอปพลิเคชันหนึ่งได้ เปรียบเทียบตัวเลขจากหลายๆแหล่งเพื่อให้เข้าใจคุณภาพอากาศในพื้นที่ของคุณได้มากยิ่งขึ้นแน่นอนว่าวิธีการที่ดีที่สุดที่จะรู้คุณภาพอากาศไม่ว่าคุณอยู่ที่ไหนคือการซื้อเครื่องวัดคุณภาพอากาศใช้เอง 

2. สวมหน้ากาก N95 แบบที่ใช้ซ้ำได้

Bangkok and the Battle Against Air Pollution • Air Pollution Bangkok inforgraphic mask efficiency

วิธีการที่ง่ายที่สุดในการป้องกันตนเองจากมลพิษทางอากาศระหว่างกิจกรรมช่วงกลางวันคือการสวมหน้ากากอยู่เสมอทุกครั้งที่คุณออกไปข้างนอก 

ผู้คนที่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะไม่ใช่ภาพที่แปลกประหลาดอะไรในกรุงเทพ หน้ากากอนามัยไม่เหมาะสมสำหรับการป้องกันมลพิษทางอากาศในระยะยาวด้วยเหตุผลหลายประการ คือ หน้ากากอนามัยไม่มีส่วนที่ปิดรอบปากจึงทำให้อากาศที่เป็นพิษยังเข้าไปได้ หน้ากากอนามัยไม่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ และหน้ากากอนามัยไม่สามารถใช้ซ้ำได้ แต่ทั้งนี้ หากคุณออกไปข้างนอกแล้วลืมหยิบหน้ากากแบบใช้ซ้ำได้ไปด้วย เราแนะนำให้คุณอย่างน้อยใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันได้บ้างก็ยังดีกว่าไม่ป้องกันอะไรเลย แต่อย่าได้ประมาท! 

หน้ากากที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการหายใจเอาอนุภาค PM 2.5 เข้าไปคือหน้ากากที่มีสัญลักษณ์อย่างน้อยที่ N95 ตัวเลขนี้หมายความว่าหน้ากากนั้นๆสามารถกรองอนุภาคในอากาศที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอนได้อย่างน้อย 95% หน้ากากเหล่านี้สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ส่วนใหญ่ได้ แต่ไม่ทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมลพิษทางอากาศมากกว่าควรใช้หน้ากาก N99 ที่สามารถกรองอนุภาคในอากาศได้ถึง 99% 

เคล็ดลับจาก Guri: ซื้อหน้ากากที่ขนาดเหมาะสมกับศีรษะและมีสายรัดอย่างน้อยสองสาย หน้ากากที่มีเพียงสายเดียวมักจะไม่เพียงพอที่จะตรึงหน้ากากกับศีรษะให้แน่นพอที่จะไม่มีอากาศพิษเข้าไปได้ คุณควรใช้หน้ากากที่มีช่องระบายอากาศเช่นกันเพื่อความสะดวกในการหายใจ 

3. ซื้อเครื่องฟอกอากาศ

อากาศในอาคารอาจจะเป็นพิษน้อยกว่าอากาศนอกอาคาร แต่ก็ยังคงมีอนุภาคอันตรายปะปนอยู่ ชาวกรุงเทพมักจะอยู่ในอาคารเพื่อหลบหลีกอากาศที่ร้อนกันอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นการเหมาะสมที่จะลงทุนกับเครื่องฟอกอากาศเพิ่มอีก ทุกบ้านควรจะมีเครื่องฟอกอากาศอย่างน้อยหนึ่งเครื่องในห้องที่สมาชิกทุกคนในบ้านใช้มากที่สุด

เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดคือเครื่องฟอกที่มีตัวกรอง HEPA โดย HEPA นั้นย่อมาจาก High Efficiency Particulate Arrestance (ที่ดักจับอนุภาคระดับสูง) ตัวกรองดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถจัดการกับมลพิษภายนอกอย่างฝุ่น PM 2.5 และมลพิษภายใน เช่น ขนฝุ่นละอองจากสัตว์เลี้ยง และฝุ่นในอากาศ อากาศที่สะอาดและผ่านการกรองแล้วดีสำหรับทุกคนในบ้านของคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาโรคภูมิแพ้และระบบทางเดินหายใจ

เคล็ดลับจาก Guri: ในกรุงเทพ ช่วงระยะเวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้อเครื่องฟอกอากาศทั้งทางอินเตอร์เน็ตและในร้าน คือช่วงก่อนหรือหลังฤดูหนาว ในช่วงฤดูหนาวร้านค้าหลายร้านมักจะขึ้นราคาเครื่องฟอกอากาศเนื่องจากมีความต้องการที่สูงนั่นเอง 

มีผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศหลากหลายแบรนด์และหลากหลายราคามากเสียจนทำให้คุณสับสนว่าเครื่องฟอกอากาศใดที่จะทำงานได้มีประสิทธิภาพ ดร.ริชาร์ด เซนท์ เซียร์ ทำงานวิจัยเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศไว้จำนวนมากในช่วง 10 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง ชื่อว่า review on air purifiers โดยงานวิจัยของดร.ริชาร์ดบอกว่า เครื่องฟอกอากาศที่ดีนั้น จะต้องมีแผ่นกรองที่ดีมีประสิทธิภาพสูง ที่มีความสามารถในการฟอกอากาศให้มีระดับ PM 2.5 ต่ำกว่า 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หมายถึง คุณภาพอากาศในระดับที่ดีมากนั่นเอง

4. ปิดประตูและหน้าต่าง

ถึงแม้ว่าอาจจะขัดกับสัญชาตญานของคุณ จงอย่าได้เปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อระบายอากาศในห้อง อากาศในอาคารอาจจะไม่ได้ปลอดภัย 100% แต่ก็มักจะสะอาดกว่าอากาศนอกอาคาร เมื่อคุณเปิดหน้าต่าง คุณกำลังปล่อยมลพิษจากภายนอกให้เข้ามาข้างใน 

เมื่อคุณไม่อยู่บ้าน ให้เปิดประตูแต่ละห้องในบ้านเอาไว้เพื่ออากาศยังถ่ายเทได้ในบ้าน อาจจะใช้เวลานานขึ้น แต่กระบวนการนี้จะช่วยระบายอากาศในบ้านของคุณได้

เคล็ดลับจาก Guri: จุดเทียนขี้ผึ้งหรือเทียนถั่วเหลืองธรรมชาติเพื่อช่วยให้บ้านของคุณมีกลิ่นสะอาดสดชื่นโดยไม่ต้องเพิ่มมลพิษในอากาศ 

5. เพิ่มต้นไม้กระถางในบ้าน

Bangkok and the Battle Against Air Pollution • Air Pollution Bangkok inforgraphic plants

ต้นไม้เป็นเครื่องฟอกอากาศโดยธรรมชาติ และต้นไม้บางชนิดก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฟอกอากาศเสียด้วย! ต้นไม้สามชนิดที่ได้รับการแนะนำให้มีในบ้านมากที่สุดได้แก่ต้นหมากเหลือง ต้นลิ้นมังกร และต้นพลูด่าง

เคล็ดลับจาก Guri: เราสามารถหาต้นไม้ดังกล่าวได้ทั้งหมดที่ตลาดต้นไม้จตุจักร (เปิดวันอังคาร 15.00-23.00 และวันพุธ-พฤหัสบดี 8.00-17.00) หรือตามร้านขายต้นไม้ทั่วไป ต้นไม้เหล่านี้ราคาไม่แพงเลย ดังนั้นคุณอาจซื้อไว้ทั้งในบ้าน ที่ทำงาน และแม้แต่ห้องเรียนของลูกก็ได้ ตลาดต้นไม้จตุจักรที่นี่นี้เองที่คุณจะหาต้นไม้ที่คุณต้องการได้ทุกประเภท ลองหาเวลาสุดสัปดาห์นี้ไปเดินดู เที่ยวชมได้เลย 

6. ลดการทำกิจกรรมนอกอาคาร

เมื่อระดับคุณภาพอากาศภายนอกอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ทุกคนไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่หรือมีความเสี่ยงมากน้อยเเค่ไหน ก็ควรอยู่ในอาคารให้มากที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการรับสารพิษให้น้อยที่สุดนั่นเอง

อาจจะเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดที่คุณต้องคงวิถีชีวิตแบบแอคทีฟเอาไว้ในเวลาที่ถูกจำกัดให้อยู่แต่ในอาคารแต่นับเป็นเรื่องโชคดีที่ว่ากรุงเทพมียิมหรือสถานที่ออกกำลังในอาคารในเกือบจะทุกๆแหล่งชุมชนใหญ่และมีกิจกรรมในร่มสนุกสนานมากมายสำหรับผู้คนหลากหลายอายุและความชอบ 

เคล็ดลับจาก Guri: ดูแลตนเองให้ปลอดภัยและยังคงรักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการสมัครเป็นสมาชิกยิมที่ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน หากคุณต้องการทำอะไรที่ไม่จำเจ ลองเข้าร่วมกิจกรรมออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มสีสันให้กับกิจวัตรประจำวันและเพื่อเปลี่ยนวิว เปลี่ยนจากบรรยากาศเดิมๆในอาคารของคุณนั่นเอง 

7. ทานอาหารหลากหลายที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง 

ยิ่งคุณรับมลพิษในอากาศมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้รับอนุมูลอิสระเข้าไปในร่างกายมากเท่านั้น อนุมูลอิสระคือโมเลกุลที่จะทำลายเซลล์และนำไปสู่โรคและปัญหาสุขภาพได้ 

สารต่อต้านอนุมูลอิสระคือสารผสมที่จะปรับให้อนุมูลอิสระเป็นกลางและลดผลกระทบที่มีต่อร่างกาย โดยร่างกายเราสามารถผลิตสารต่อต้านอนุมูลอิสระได้เองแต่ก็สามารถได้รับจากอาหารบางประเภทได้ด้วยเช่นกัน ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษควรทานสารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติให้มากขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของผลกระทบจากมลพิษต่อร่างกาย 

เคล็ดลับจาก Guri: สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดีและปลอดภัยที่สุดคือสารที่มาจากอาหารธรรมชาติไม่ใช่สารที่สังเคราะห์ขึ้นมา บทความเชิงประจักษ์ชิ้นหนึ่งชื่อว่า top 12 antioxidant-rich foods แนะนำอาหาร 12 ประเภทที่อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่คุณควรทานเป็นประจำ เช่น ดาร์กช็อกโกแลต ถั่วพีแคน บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ ผลอาร์ติโชค เก๋ากี้ ราสเบอร์รี่ ผักเคล กะหล่ำปลีม่วง ถั่ว หัวบีทรูท และผักโขม 

8. ปกป้องสุขภาพจิตและสุขภาวะ

มีการค้นพบเร็วๆนี้ว่า มลพิษทางอากาศเป็นหนึ่งในปัจจัยแวดล้อมที่อาจมีผลต่อสุขภาพจิต งานศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพอากาศกับการทำงานของสมอง ซึ่งหมายความว่าคุณภาพอากาศอาจเป็นสาเหตุของโรคทางจิตได้ 

การตรวจสุขภาพจิตเป็นประจำและใช้ชีวิตเพื่อเพิ่มสุขภาวะที่ดีให้กับตนเองเป็นเรื่องที่ดีเสมอ และอาจจะสำคัญยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง 

เคล็ดลับจาก Guri: วิธีการที่แนะนำเพื่อเพิ่มสุขภาวะที่ดีและรักษาสุขภาพจิตคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นั่งสมาธิ และพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือนักบำบัดอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง 

คุณสามารถมีส่วนช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อย่างไร 

เราต่างก็ได้เห็น และบางทีอาจจะหัวเราะกับรถดับเพลิงที่พ่นน้ำในอากาศไปทั่วกรุงเทพ มันอาจจะดูไม่สมเหตุสมผล แต่ในวันนั้นเอง คุณได้ทำอะไรเพื่อแก้ไขมลพิษในอากาศบ้างหรือเปล่า รถดับเพลิงที่พ่นน้ำในอากาศก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย... หรือว่าไม่ใช่? 

การลดมลพิษในอากาศต้องอาศัยความร่วมมืออย่างมาก ไม่ใช่แต่เพียงภาครัฐ แต่ยังรวมไปถึงภาคเอกชนและผู้อาศัยในกรุงเทพ 

มาร่วมทำในสิ่งที่คุณทำได้เพื่อกำจัดมลพิษในอากาศด้วยการเปลี่ยนวิถีชีวิตที่ง่ายๆแต่มีประสิทธิภาพดังนี้ 

  1. ใช้บริการขนส่งสาธารณะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สาเหตุใหญ่ที่สุดของมลพิษทางอากาศคือการเผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิล นั่นหมายถึง นอกเหนือจากโรงงานแล้ว ในระดับของปัจเจก รถของคุณก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของมลพิษทางอากาศ ยิ่งมีคนอยู่บนถนนน้อยลงเท่าไหร่ อากาศก็ยิ่งดีเท่านั้น 
  2. ถ้าหากคุณจะขับรถ อย่าได้ไปคนเดียว ลองแชร์รถนั่งและไปไหนด้วยกันหลายๆคน หากปกติแล้วในครอบครัวของคุณต้องออกไปทำงาน หรือไปโรงเรียนในเวลาเดียวกัน ลองไปพร้อมกันโดยรถคันเดียว ถึงแม้ว่าคุณอาจมีรถอีกคัน แล้วแยกกันไปเพื่อความสะดวก แต่การลองไปพร้อมกันโดยรถคันเดียว นอกจากจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันแล้ว แน่นอนมันจะช่วยลดมลพิษ และปัญหารถติดบนท้องถนนได้เป็นอย่างดี
  3. ดับเครื่องยนต์รถทุกครั้งที่จอดรถ ชาวกรุงเทพจำนวนมากติดเครื่องยนต์รถทิ้งไว้เพื่อเปิดแอร์ระหว่างที่รออยู่ในที่จอดรถหรือรอรับคน ไม่เพียงแต่การกระทำดังกล่าวจะแย่ต่อรถของคุณเอง แต่ยังทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากไปในอากาศระหว่างที่คุณรอ หลักปฏิบัติที่ควรทำ คือถ้าหากรถคุณไม่ได้เคลื่อนที่อยู่ล่ะก็ คุณควรดับเครื่องยนต์ไว้ 
  4. ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ลดการใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องปรับอากาศที่มากเกินไป ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อลดการใช้พลังงาน หยุดการเผาผลาญพลังงานจากโรงไฟฟ้าซึ่งมักจะใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิต(สาเหตุหลักของมลพิษทางอากาศ)
  5. บอกต่อสิ่งที่คุณรู้กับเพื่อนและครอบครัว ช่วยเพิ่มการตระหนักรู้เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ ทั้งสาเหตุและผลกระทบเพื่อที่เราจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเพื่อโลกและสุขภาพที่ดีขึ้นของเราเอง

คุณอาจจะไม่สามารถควบคุมสาเหตุหลักบางประการของมลพิษทางอากาศได้อย่างโรงงานและรถทุกคันบนท้องถนน แต่คุณสามารถที่จะมีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองและเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเล็กๆน้อยๆเพื่อที่ว่าอย่างน้อยคุณก็จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มปัญหามลพิษทางอากาศ 

แต่ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราทุกคนช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิต การกระทำของเราทุกคนรวมกันสามารถช่วยลดปัญหาและสร้างอากาศที่สะอาดขึ้นสำหรับทุกคนได้ ถ้าหากจะให้ยืมคำพูดของนักรบสิ่งแวดล้อม ที่ว่า “เราไม่ต้องการคนเพียงหยิบมือเดียวในการทำสิ่งวิเศษแต่อย่างใด เราต้องการคนนับล้านคนร่วมกันทำสิ่งธรรมดาต่างหาก” 

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า อย่างน้อยๆ สักวันหนึ่งบทความนี้จะตกยุคไปเพราะเราได้ช่วยกันสร้างอากาศที่สะอาดกว่าเดิม สดชื่นกว่าเดิม และหายใจได้มากกว่าเดิม จนกว่าวันนั้นจะมาถึง ขอให้เราทุกคนปลอดภัยและแข็งแรงดี 

แหล่งข้อมูล

บุคลากร

  1. Laura Martin: IG, web

ประวัติ: ลอร่า มาร์ตินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและผู้ดูแลโภชนาการที่ได้รับการรับรอง จากการได้แรงบันดาลใจมาจากการค้นคว้าของเธอเองในเรื่องของสุขภาพและความสุข ลอร่าได้ออกแบบโปรแกรม Healing to Happy เพื่อสร้างแรงผลักดันให้ผู้คนด้วยการผสมผสานระหว่างวิทยาศาสตร์ ความตั้งใจและทัศนคติ และเครื่องมือ ละทิ้งกระแสสังคมไปเสีย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของคุณเอง และรักษาความสุขไปกับลอร่า  

  1. Mickey Allapach Na Pombhejara

ประวัติ: มิคกี้ หรือเป็นที่รู้จักกันกันว่าโค้ชมิคกี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความแข็งแรงและการปรับสภาพร่างกายและยังเป็นโค้ชสมาคมยกน้ำหนักออสเตรเลีย เจ้าของโปรแกรม Healthy Getaway Program เป็นพื้นที่ออนไลน์ที่โค้ชมิคกี้ให้คำแนะนำด้านสุขภาพ โดยจัดเวิร์คช็อปสุขภาพทั่วไปในประเทศไทยและบริหาร Healthy Getaway Thailand ติดต่อโค้ชมิคกี้เพื่อยกระดับการออกกำลังกายของคุณไปอีกระดับ 

  1. Kru Mike

ประวัติ: ไมเคิล คาราโน หรือครูไมค์ เป็นนักลงทุนชาวกรุงเทพ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Guri และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและการออกกำลังกายโดยรวม ครูไมค์และครอบครัว Guri มีภารกิจที่จะช่วยสร้างชุมชนที่สุขภาพแข็งแรงทั่วโลกโดยเริ่มจากกรุงเทพ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกายหรือว่ามือโปรแล้วก็ตาม ครูไมค์สามารถช่วยคุณให้ไปสู่เป้าหมายของการสุขภาพดีได้อย่างหลากหลาย  

สถานที่

  1. BodyConscious at Y Wellness

ประวัติ: BodyConcious เป็นศูนย์สุขภาพที่มีทีมนักปฏิบัติการทางการแพทย์และสุขภาวะที่ออกแบบโปรแกรมไลฟ์สไตล์ตามลักษณะทางกายภาพ จิตใจ สิ่งแวดล้อม และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละคน ปรัชญาของ BodyConcious ตั้งอยู่บนหลักการง่ายๆ 4 หลักการ: สาเหตุรากฐาน, การแก้ไขปัญหาธรรมชาติ, การรักษาแบบทดลองและทดสอบ, และการปรับปรุงไลฟ์สไตล์และการเพิ่มพลังตนเอง ค้นพบรากฐานปัญหาของสุขภาพ บรรเทาและปรับเปลี่ยนสภาวะของคุณ และเริ่มต้นการเดินทางไปสู่สุขภาพและความสุขไปกับทีม BodyConcious 

  1. Jetts Fitness Thailand 

ประวัติ: Jetts Fitness มีสาขาทั่วโลก 280 สาขาที่เปิด 24 ชั่วโมง รวมถึง 11 สาขาในกรุงเทพ Jetts Fitness เป็นโรงยิมที่ออกแบบสำหรับผู้ที่งานยุ่งในทุกๆวันแต่ยังสามารถออกกำลังกายเพื่อได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ตัวเองต้องการได้ โดยที่ Jetts Fitness สร้างขึ้นมาบนหลักการที่ว่า การออกกำลังกายควรขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ที่ Jetts Fitness คุณสามารถปรับเวลาออกกำลังกายให้เข้ากับตารางของคุณไม่ว่าจะมีเวลาว่างน้อยเพียงใด ที่ Jetts Fitness ยังใช้ระบบสัญญาแบบไม่ผูกมัดที่จะส่งเสริมความตั้งใจที่เน้นความเรียบง่าย สะดวก และยืดหยุ่นนั่นเอง  

  1. New Counseling Service 

ประวัติ: New Counseling Service (NCS) ได้ให้บริการด้านการปรึกษาทางสุขภาพจิตในกรุงเทพมามากกว่า 20 ปี ทีมให้คำปรึกษา NCS มีผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองที่มาจากพื้นเพทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ถ้าหากคุณกำลังมีปัญหาสุขภาพจิต ความกังวล หรืออาการซึมเศร้าจากความเศร้าหรือปัญหาพฤติกรรมการกิน ผู้ให้คำปรึกษาของ NCS พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคุณในการไปสู่สุขภาพจิตและสุขภาวะที่ดีกว่าเดิม 

สินค้า

  1. Travellight Breathing Mask: Mask ที่มาพร้อมกับตัวกรอง N95 ที่มีชั้นคาร์บอนข้างใน สามารถกรองอนุภาค PM 2.5 และมลพิษอื่นๆได้เพื่อการหายใจที่มีประสิทธิภาพ โดยมีน้ำหนักเบาและหายใจง่ายเนื่องจากมีช่องระบายอากาศที่ช่วยปล่อยลมหายใจที่หายใจเข้าออกได้ เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับทั้งการใช้ในอาคารและนอกอาคาร คุณสามารถสั่งได้ทาง LINE (@breathingmask) หรือ Facebook (@travelingmaks) 
  1. เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดในกรุงเทพ: อากาศในบ้านของคุณอาจจะยังมี PM 2.5 อยู่! ทำให้บ้านคุณปลอดจากฝุ่นPM 2.5 ไปกับลิสต์เครื่องฟอกอากาศที่ดีที่สุดที่คุณหาซื้อได้ในกรุงเทพ
     
  2. ClassPass BangkokClassPass คือแอปพลิเคชันที่กำลังพลิกโฉมโลกของการออกกำลังกาย แทนที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมสูงๆสำหรับการเป็นสมาชิกยิมต่างๆ ClassPass ประหยัดให้คุณได้ถึง 70% จากการไม่ต้องนัดคิวล่วงหน้าและให้คุณลองร่วมคลาสได้ที่ยิม ฟิตเนสสตูดิโอ และสถานที่ออกกำลังกายอื่นๆทั่วโลก เลือกคลาสเรียนที่คุณชอบและค้นหาวิธีออกกำลังกายใหม่ๆโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมยิมและการเป็นสมาชิกแบบผูกมัด

มาส่งเสียงคุณออกไป

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงอากาศให้ดีขึ้น เพื่อทุกคน

เอกสารอ้างอิง 

ที่ Guri เราทำงานและอาศัยในกรุงเทพ ความรู้หลายอย่างในบทความมาจากประสบการณ์โดยตรง บางส่วนยังต้องการการค้นคว้าเพิ่มเติมและเราต้องการที่จะให้เครดิตกับแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ที่แบ่งปันข้อมูลให้กับเราที่สามารถทำให้เราสามารถส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศและวิธีการป้องกันตนเองให้กับผู้อ่านทุกคน

ความเห็น

มีอะไรบ้าง ในบทความนี้

รับคำเชิญสุดพิเศษ ก่อนใคร!

เพื่อเข้าร่วม Guri Community โดยลงทะเบียนเข้าสู่ waiting list ของเราวันนี้