การนวด 6 ประเภท ตอบโจทย์ออฟฟิศซินโดรมให้ผ่อนคลายละลายความตึงกัน
ปัจจุบันมีตัวเลือกในการนวดมากมายจนหลายๆคนสงสัยว่า แต่ละแบบมีจุดเด่นหรือประโยชน์แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จึงรวบรวมทุกสไตล์การนวดเพื่อเอาใจสายนวดอย่างจุใจ ถ้าพร้อมแล้วลองมาดูการนวด 6 ประเภทดังต่อไปนี้ เพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจเลือกการนวดที่เหมาะกับร่างกาย และความต้องการผ่อนคลายของคุณมากที่สุด
1. การนวดชิอัตสึ หรือการนวดกดจุดแบบญี่ปุ่น
ศาสตร์การนวดแบบโบราณที่ถือกำเนิดจากประเทศจีน และได้รับการพัฒนาต่อโดยประเทศญี่ปุ่น ชิอัตสึเป็นการนวดประเภทที่ใช้นิ้วมือ หัวแม่มือ และต้นฝ่ามือเพื่อสร้างแรงกดกับร่างกาย การให้ความสำคัญกับจุดกดสำคัญ และการยืดกล้ามเนื้อและข้อต่อเพื่อปรับปรุงการไหลเวียนของพลังชีวิต หรือพลังชี่ในร่างกาย
การนวดชิอัตสึ ริเริ่มจากปรัชญาตะวันออกและความเชื่อที่ว่าร่างกายจำเป็นที่จะต้องอยู่ในความสมดุล เพื่อที่จะช่วยฟื้นฟูตัวมันเองได้ ใครที่กำลังมองหาการสร้างสมดุลให้ร่างกาย แนะนำให้ไปลองกัน
2. การนวดแผนไทย
มาต่อกันที่การนวดแผนไทย ที่เราทุกคนต่างคุ้นเคย รู้หรือไม่ ว่าการนวดแผนไทยพัฒนาโดยพระสงฆ์ในประเทศไทยเรานี้เอง ประเภทของการนวดนี้ใช้เทคนิคการยืด เหยียดกล้ามเนื้อ การดึง และโยคะ มาผสมผสานกัน มีการกดจุดร่างกายในบริเวณสำคัญ เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนพลังงานภายในร่างกาย การนวดประเภทนี้จะกระทำได้โดยสวมใส่เสื้อผ้า และไม่จำเป็นต้องชโลมน้ำมันหรือโลชั่น ทั่วร่างกายแบบการนวดประเภทอื่น
ทำให้การนวดแผนไทยเป็นตัวเลือกที่ดีในการเพิ่มความยืดหยุ่นและบรรเทาอาการตึงกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่มีอาการปวด ตึง เมื่อยจากการนั่งทำงานหลายชั่วโมงต่อวันสุดๆ รับรองว่านวดเสร็จตัวเบา สบายแน่นอน
3. การนวดลูกประคบสมุนไพรไทย
มาต่อกันที่การนวดไทยแบบมีพร็อพสุดเก๋ ลูกประคบสมุนไพรไทย ที่ทำโดยใช้ผ้ามัสลินร้อนมาห่อหุ้มสมุนไพรหลากหลายชนิด ถ้าจะให้ดีที่สุด สมุนไพรและน้ำมันในลูกประคบจะมีต้องความเฉพาะเจาะจงกับปัญหาสุขภาพส่วนบุคคลของคุณ เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของคุณได้อย่างตรงจุด โดยการนวดจะใช้ลูกประคบอุ่น แนบกดจุดไปทั่วร่างกาย ให้ผิวหนังของเราได้ดูดซึมเอาสมุนไพรไทยนานาชนิดจากลูกประคบ ความอุ่นร้อนจากลูกประคบช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี
นักนวดบำบัดด้วยลูกประคบสมุนไพรไทยจะปรับใช้เทคนิคและแรงกดที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณเพื่อบรรเทาการปวดเมื่อยและคลายความเหนื่อยล้าให้หายเป็นปลิดทิ้ง
4. การนวดแบบสวีเดน
เป็นการนวดที่ตกทอดมาช้านานตั้งแต่ยุคโรมันและถูกนำมาพัฒนาขึ้นในแถบยุโรป จัดเป็นการนวดแบบคลาสสิก ลักษณะเฉพาะของการนวดแบบสวีเดน คือ การนวดช้าและเร็วสลับกัน โดยการใช้เทคนิคการสับ, การทุบ, การตบ, การคลึงไปตามแนวกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น การนวดสวีเดนจะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่อ่อนล้าให้กลับมีชีวิตชีวา ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ลดอาการตึงเครียด คลายความเหนื่อยล้าและอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อแบบเรื้อรังได้
5. การนวดเนื้อเยื่อส่วนลึก
การนวดเนื้อเยื่อส่วนลึกมีจุดมุ่งหมายเพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในกล้ามเนื้อส่วนลึกของร่างกาย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ด้วยจังหวะการนวดที่มั่นคง กดลึก อย่างช้าๆ และเน้นนวดบริเวณเป้าหมายที่มีปัญหาโดยเฉพาะ เพราะเหตุนี้ การนวดเนื้อเยื่อส่วนลึกอาจทำให้เกิดความเจ็บปวด "รุนแรง" กว่าการนวดแบบสวีเดน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญก็คือนักนวดบำบัดสามารถปรับแรงกดให้เหมาะสมกับคุณได้เพื่อที่คุณจะได้ผ่อนคลายโดยไม่ทรมานเกินไปนั่นเอง
6. การนวดหินร้อน
ปิดท้ายด้วยการนวดฟินๆด้วยหินร้อน การนวดประเภทนี้จะใช้หินเรียบที่ถูกให้ความร้อนในอุณหภูมิที่พอเหมาะ และนำไปวางตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของคุณ เช่นตามกระดูกสันหลัง หรือบนฝ่ามือหรือฝ่าเท้า นักนวดบำบัดจะใช้เทคนิคเหล่านี้ร่วมกับเทคนิคการนวดต่างๆ เพื่อมอบความผ่อนคลายให้แก่คุณ ความร้อนจากหินจะช่วยกระตุ้นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและการไหลเวียนโลหิตได้เป็นอย่างดี ใครยังไม่เคยลอง ไม่อยากให้พลาดความสบายตัวผ่อนคลายจิตใจด้วยการนวดหินร้อนเลย
ค้นหารายการ กลุ่มธุรกิจสปาและบริการนวด และดูรายละเอียดเกี่ยวกับการนวดบำบัดที่อยู่ใกล้คุณ
ความเห็น